งานของครู...เพื่อหนูๆตัวน้อย ตอน ชื่นชมธรรมชาติป่าชายเลน-ล่องเรือชมหิ่งห้อย (ศิรินพร สันติเมทนีดล)
คุณครูขา...เพื่อนเล่าให้หนูฟังว่าไปดูหิ่งห้อยกระพริบไฟมาเมื่อวันหยุด หนูอยากเห็นบ้างจัง ไม่รู้จะเหมือนไฟกระพริบบนต้นคริสต์มาสที่โรงเรียนหรือเปล่านะคะ
คำพูดประโยคนี้ของเด็ก ทำให้ครูในบ้านวาดฝันทุกคนเกิดความคิดว่าโครงการ Familys Trip ของบ้านเราเทอมนี้ เราน่าจะจัดพาเด็กๆ ครู และผู้ปกครองไปทำกิจกรรมร่วมกันด้วยการไปดูหิ่งห้อยดีกว่า !!
หลังจากที่ได้เสนอโครงการล่องเรือชมหิ่งห้อยสำหรับ Familys Trip ครั้งที่ 5 กับสมาชิกในบ้านของเราไปแล้ว ก็ได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างดีจากคนส่วนใหญ่ โครงการล่องเรือชมหิ่งห้อย ของเราจึงเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2551 โดยมีวัตถุประสงค์หลักของการเดินทางที่นอกเหนือจากการพาทุกคนไปเที่ยวชมหิ่งห้อยแล้ว ก็คือ การสานสัมพันธ์ระหว่างเด็กๆ ครู และผู้ปกครองทุกคนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อการดูแลและพัฒนาเด็กของเราร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกันมากที่สุด
งานของครูเราสำหรับโครงการนี้ เริ่มต้นจากการหาข้อมูลเกี่ยวกับหิ่งห้อยมาแบ่งปันกันในหมู่ครูและผู้ปกครองเรากันก่อน เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลให้กับเด็กว่าหิ่งห้อยมีลักษณะอย่างไร? อาศัยอยู่มากในแถบไหน? และที่สำคัญที่ทุกคนสนใจก็คือ มันกระพริบแสงได้อย่างไร? และเพื่ออะไร? จากนั้น คุณครูทุกคนก็ได้เดินทางเพื่อไปสำรวจเส้นทางหาสถานที่ที่เราจะพาเด็กๆไปดูหิ่งห้อยกันแบบที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก แล้วเราก็ไปเจอที่ที่ถูกใจ คนไม่พลุกพล่าน และดูปลอดภัยสำหรับเด็กๆในการเดินทางไปชมหิ่งห้อยที่ร้านอาหารบ้านคุ้งน้ำ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร แต่ด้วยความเป็น ครู ของเรา ในระหว่างที่ไปสำรวจเส้นทาง เราก็ได้ไปพบป่าชายเลนที่ยังคงมีไม้ป่าชายเลน อย่างเช่น ต้นโกงกาง ต้นตะบูน รวมทั้งสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลน เช่น ปูก้ามดาบ ปลาตีน และกุ้งดีดขันธ์ อยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ ทำให้เราเกิดความคิดว่าไหนๆเราก็จะเดินทางมาทางนี้อยู่แล้ว เราก็น่าจะพาทุกคนมาแวะชมป่าชายเลนและทำกิจกรรมร่วมกันก่อนล่องเรือชมหิ่งห้อยยามเย็นด้วยเลยแล้วกัน
เมื่อวันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2551 มาถึง โปรแกรมการเดินทางของเราจึงเริ่มต้นขึ้นจากการพาเด็กๆ ครู และผู้ปกครอง ไปเดินชมป่าชายเลนในเขตโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์ จ.สมุทรสาคร
โดยมีข้อแม้ว่าผู้ปกครองจะต้องทำอย่างไรก็ได้ให้ลูกของตนเองเรียนรู้สิ่งต่างๆเกี่ยวกับป่าชายเลนให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการอ่านป้ายแนะนำสัตว์หรือพืชพันธุ์ต่างๆในป่าชายเลนให้ลูกฟัง ให้ลูกวาดหรือถ่ายภาพสิ่งที่เห็นเพื่อเป็นการบันทึกความจำและเกิดการเรียนรู้ สำหรับใช้เล่นเกมในกิจกรรมยามบ่ายของเราที่รีสอร์ท อ.บ้านแพ้ว ซึ่งทุกครอบครัวจะต้องทำกิจกรรมร่วมกัน โดยคุณครูในบ้านของเราเป็นผู้จัดเตรียมฐานสำหรับกิจกรรมต่างๆเอาไว้แล้ว 4 ฐานด้วยกัน เริ่มต้นจาก ฐานช่วยปลาตีนที ที่แต่ละบ้านจะต้องช่วยกันตักไข่ปลาตีน (ลูกปิงปอง) ขึ้นมาจากสระน้ำให้ได้มากที่สุดในเวลาที่กำหนด โดยให้เด็กๆใช้ช้อนเป็นอุปกรณ์ในการตัก ส่วนผู้ปกครองให้ใช้ตะเกียบในการคีบไข่ขึ้นมา และมีคะแนนพิเศษสำหรับบ้านที่มีใจอนุรักษ์ คือ บ้านไหนไม่ละเลยช่วยเก็บขยะ เช่น ถุงพลาสติก ขวดน้ำ ที่คุณครูตั้งใจใส่ลงไปในสระน้ำด้วยขึ้นมา ก็จะได้รางวัลพิเศษไป ฐานต่อมาเป็นฐานปั้นดินให้เป็นสัตว์ป่าชายเลน ที่ทุกบ้านจะต้องช่วยกันเลือกแผ่นป้ายเฉพาะสัตว์ที่เป็นสัตว์ป่าชายเลนมาบ้านละ 3 แผ่นและนำดินเหนียวที่คุณครูเตรียมไว้ให้มาปั้นเป็นสัตว์นั้นๆให้เหมือนที่สุด ถ้าบ้านไหนเลือกแผ่นป้ายและปั้นแต่เฉพาะสัตว์ป่าชายเลยได้ถูกต้อง ก็จะได้คะแนนและผ่านฐานนี้ไปได้ สู่ฐานที่ 3 ฐานทายซิฉันเป็นใคร ที่เด็กๆและผู้ปกครองจะต้องร่วมกันทายภาพสัตว์หรือต้นไม้ปริศนาบนแผ่นป้ายใหญ่ โดยค่อยๆเปิดภาพทีละส่วนจนทายได้ถูกต้อง และฐานสุดท้าย คือ ฐานหาให้เจอ..ฉันอยู่นี่ไง ที่จะมีแผ่นภาพให้ผู้ปกครองดูบ้านละ 3 แผ่น ซึ่งจะเป็นแผ่นภาพที่เป็นสัตว์และพืชพันธุ์ในป่าชายเลน แล้วให้ผู้ปกครองบอกชื่อของสัตว์หรือพืชที่ตนได้ในภาพนั้นให้ลูกวิ่งไปหาภาพในฝั่งตรงกันข้ามที่ตรงกับชื่อที่ผู้ปกครองบอกไป โดยในทุกๆกิจกรรมในแต่ละฐานก็ได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองและเด็กๆเป็นอย่างดี ทั้งยังทำให้ได้เห็นบทบาทของแต่ละคนในแต่ละบ้าน รวมทั้งความร่วมมือร่วมใจกันในแต่ละบ้านมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
และแล้วเวลาในการล่องเรือชมหิ่งห้อยที่เด็กๆรอคอยมากที่สุดก็มาถึงในตอนเย็นหลังรับประทานอาหารเสร็จ ซึ่งในวันนั้นฝนได้ตกลงโปรยปรายลงมาก่อนที่พวกเราจะลงเรือกันและหยุดตกในเวลาที่เราลงเรือไปชมหิ่งห้อยพอดี ทำให้วันนั้นทุกคนได้เห็นหิ่งห้อยสมใจและเยอะเป็นพิเศษ เพราะหิ่งห้อยจะชอบอยู่ในที่ที่ชื้น ใกล้แหล่งน้ำ และอยู่บนต้นลำพูที่บริเวณนั้นมีสภาพแวดล้อมทุกอย่างที่สมบูรณ์มาก รวมทั้งไม่มีแสงสว่างจากไฟฟ้ามารบกวนเยอะ จึงทำให้เห็นหิ่งห้อยได้ชัดเจนที่เด็กๆตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อหิ่งห้อยเกาะอยู่บนต้นลำพูรวมกันมากมายก็ทำให้ต้นลำพูนั้นดูคล้ายกับต้นคริสต์มาสที่มีไฟติดกระพริบระยิบระยับสวยงามนัก ที่สำคัญที่สุด เด็กๆของเรายังได้ใกล้ชิดกับหิ่งห้อยมากกว่านั้น เพราะหิ่งห้อยบางตัวได้บินเข้ามาเกาะตัวคนบนเรือเรา ทำให้เด็กๆได้เห็นว่าหิ่งห้อยนั้นจริงๆมีตัวเล็กนิดเดียว และมีไฟกระพริบออกมาจากตรงช่องท้อง แต่เมื่อมาอยู่บนตัวเรานานๆก็จะเริ่มเห็นไฟกระพริบหรี่ลงและไม่สวยเท่ากับตอนที่เขาเกาะอยู่บนต้นลำพูจนเด็กๆหลายคนร้องบอกว่า คุณครูขา...เราส่งเขากลับไปอยู่บนบ้านของเขาบนต้นลำพูกันเถอะนะคะ อยู่บนนั้นเขาดูสวยกว่ากันเยอะเลย นี่แหละค่ะ คือ สิ่งที่พวกเราทั้งครูและผู้ปกครองรู้สึกภาคภูมิใจว่าอย่างน้อยกิจกรรมที่เราตั้งใจทำกันในวันนี้ก็สำเร็จไปในระดับหนึ่ง ที่ทำให้เด็กๆของเรามีจิตสำนึกที่ดีต่อธรรมชาติและระบบนิเวศน์ ซึ่งจะส่งผลให้สิ่งต่างๆที่อยู่บนพื้นโลกใบนี้อยู่ร่วมกันได้ไปอีกยาวนานและมีความสุข !
|