ขอหนูโชว์หน่อย
ภารกิจประจำวัน
ชาวนา...บ้านวาดฝัน!!
แม่จ๋า..หนูรักแม่จัง!
ห้องฟรุทตี้ ไปดูเครื่องบิน :)
ไปเรียนจัดสวนกับห้องของเล่น..อมยิ้ม :)
ลอย ลอยกระทง (2553 ค่ะ)
ลอย ลอยกระทง (2553 ค่ะ)ต่ออีกนิดนะคะ
วันพ่อ 2553
Family Trip 2554
นับถอยหลัง..อำลา อ.3
คืนสู่เหย้า..ชาวบ้านวาดฝัน !
คนข้างหลังข่าว
 
 
Happy Art
ฟัง ร้อง เล่น เป็นประโยชน์
ศิลปะเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์
 
 
กระทรวงศึกษาธิการ
สำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษา
Sirin Travel
Education media for kids
kidsquare
 
 

"ไหว้"นี้นั้น..สำคัญไฉน?? (ศิรินพร สันติเมทนีดล) 30/6/2010
“เมื่อซักครู่ ผมแอบสังเกตเห็นพวกคุณไหว้กันและกัน ทั้งตอนที่อาจารย์ด้านหน้าเริ่มต้นนำเสนอผลงานและตอนที่อาจารย์นำเสนอผลงานจบ ผมไม่เข้าใจความหมาย “การไหว้” ของพวกคุณหรอกนะ แล้วก็ไม่แน่ใจด้วยว่าคุณต้องไหว้กันตอนไหนบ้าง แต่ผมรู้สึกว่ามันน่ารักและน่าชื่นชมจัง เวลาที่เห็นพวกคุณไหว้กันและกัน” ประโยคนี้เป็นประโยคที่ผู้เข้าร่วมประชุมนานาชาติ APNME (Asia Pacific Network for Moral Education) จากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้บอกกับเพื่อนของฉันคนนึงที่ร่วมเดินทางไปประชุมด้วยกันในครั้งนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในห้องประชุมวันนั้น จะเป็นห้องประชุมที่ได้จัดให้อาจารย์ 3 ท่านจากประเทศไทยมานำเสนอผลงานวิจัยของตนเกี่ยวกับด้านคุณธรรม โดยมีฉันและเพื่อนเป็นผู้เข้ารับฟังอยู่ในห้อง ซึ่งในการเริ่มต้นนำเสนองานของอาจารย์แต่ละท่าน ทุกท่านก็จะเริ่มทักทายผู้ร่วมประชุมด้วย “การไหว้” และกล่าว “สวัสดีค่ะ” เป็นภาษาไทย รวมทั้งตอนที่นำเสนอผลงานจบในตอนท้ายด้วย โดยที่ทุกครั้งที่อาจารย์ผู้นำเสนอผลงานด้านหน้าไหว้และกล่าวสวัสดี ฉันกับเพื่อนซึ่งเป็นผู้รับฟังก็จะไหว้กลับ พร้อมกล่าวสวัสดีหรือขอบคุณในตอนท้ายทุกครั้ง ซึ่งมาทราบภายหลังว่ามีผู้เข้าร่วมประชุมบางท่านแอบสังเกตและชื่นชมอยู่ข้างหลัง ทั้งๆที่ยังไม่ทราบความหมายที่แท้จริงของการแสดงกริยาเช่นนี้เลยด้วยซ้ำ J และเมื่อเพื่อนของฉันตอบกลับไปว่า “การไหว้ ที่พวกเรากระทำกันนั้นน่ะ เป็นเรื่องปกติมากๆของสังคมในประเทศเรา เพราะเป็นวัฒนธรรมของเรา ที่เมื่อเจอกันเราก็มักจะทักทายกัน เริ่มต้นทำความรู้จักกัน หรือแสดงความเคารพกันด้วยการไหว้ โดยผู้ที่มีอายุน้อยกว่าจะต้องไหว้เพื่อแสดงความเคารพผู้ที่มีอายุมากกว่าก่อน ส่วนที่คุณเห็นเราไหว้ผู้นำเสนอผลงานกลับในตอนท้ายนั้น เราไหว้ท่านเพื่อแสดงความขอบคุณท่านที่ได้ให้ความรู้แก่เรา” เมื่อจบประโยคนี้ที่เพื่อนฉันตอบไป ผู้เข้าร่วมประชุมจากเซี่ยงไฮ้ท่านนั้นก็ได้ตอบกลับมาว่า “คุณรู้มั๊ยว่าก่อนหน้านี้ ผมไม่เคยคิดสนใจหรืออยากจะไปประเทศไทยเลย โดยเฉพาะหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ชุมนุมในประเทศของคุณเมื่อเดือนก่อน แต่วันนี้หลังจากที่ผมได้พบกับพวกคุณ ได้เห็นพวกคุณไหว้กันและกัน มันทำให้ผมรู้สึกชื่นชมและอบอุ่นอย่างแปลกประหลาดในการเคารพซึ่งกันและกันของคนไทย และทำให้ผมต้องเปลี่ยนใจแล้วล่ะว่าในชีวิตนี้ผมจะต้องไปเมืองไทยให้ได้ซักครั้ง!!!” หลังจากที่เพื่อนมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ฉันรู้สึกภูมิใจ ปลื้มใจ ขนลุกอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเหมือนกับว่าเราได้ช่วย “กู้ชาติ” ยังไงก็ไม่รู้ ไม่น่าเชื่อว่า “การไหว้” ที่เราทำกันเป็นประจำจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเรา จะเป็นสิ่งที่แสดงความเป็น “คนไทย” ของเราได้มากมายขนาดนี้ อย่างนี้จะไม่ให้เราปลูกฝังวัฒนธรรมที่น่ารัก น่าชื่นชมนี้ให้เด็กๆของเราได้อย่างไรกันล่ะ จริงมั๊ยจ๊ะ?
 
   
 
   

 
 
ความคิดเห็นที่ 1
ครูแจนคะ ขอชื่นชมในแนวคิดของผู้บริหารที่เห็นถึงความสำคัญและคุณค่าของสิ่งที่เป็นวัฒนธรรมที่ดีงามของคนไทยและมุ่งปลูกฝังสิ่งที่ดีงามเช่นนี้ให้กับนักเรียนของเรา
จากคุณ : ครูนกหวีด   วันที่ : 22/12/2010 10:3 น.
 
 


 
 
ความคิดเห็นที่ 2
ขอบคุณค่ะ :)
จากคุณ : ครูแจนบ้านวาดฝัน   วันที่ : 26/12/2010 9:55 น.
 
 


 
 
ความคิดเห็นที่ 3
การไหว้เป็นการแสดงออกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงความเป็นพวกพ้องได้ดีโดยเฉพาะเมื่ออยู่ในที่ที่ไม่ใช่ถิ่นฐานบ้านเกิดของเราเอง การฝึกเด็กให้ไหว้ในช่วงปฐมวัยคงไม่ใช่เรื่องยากเย็น เพราะครูปฐมวัยมักใส่ใจในการกล่อมเกลาลักษณะนิสัยของเด็กอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรเมื่อเด็กก้าวเข้าสู่ช่วงวัยที่โตขึ้น ดูเหมือนการไหว้จะกลายเป็นสิ่งที่เคอะเขินไปเสียแล้ว ทางออกหนึ่งที่จะช่วยธรรมรงค์ไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงามนี้ได้คงต้องเพิ่งพาการเป็นตัวแบบที่ดีของพ่อแม่และคนใกล้ชิดเด็กกระมังคะ คุณพ่อคุณแม่ก็อย่าลืมแล้วกัน ลูกๆกำลังแอบมองอยู่ค่ะ
จากคุณ : อ.ปิ๊ก   วันที่ : 10/8/2015 8:31 น.
 
 


ความคิดเห็นทั้งหมด 3 หน้า 1  


 
 
ข้อความ :
จากคุณ :
โค้ด : This Is CAPTCHA Image
 
 
 
Copyright © 2008, Baanwadfun School. All rights reserved. WebSite by ProgramMee.com